สิ่งที่โปรแกรม IBEAR ให้คล้ายๆ กับ Full-Time MBA เลยคือเรียนจบเร็ว คะแนน GMAT ไม่ต้องสูงมาก ซึ่งคะแนนเฉลี่ยแค่ 630 และถ้าน้องไม่อยากส่งคะแนน GMAT ก็มีโอกาสให้ Waive ได้

วันนี้จะมาพูดถึงโปรแกรมหนึ่ง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็น Top U เหมือนกัน นั่นก็คือ USC IBEAR ซึ่งก็เป็นโปรแกรม MBA เหมือนกัน เรียนปีเดียวจบ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ ในหนึ่งปีก็รับไม่เยอะ รับแค่ 55 คน แล้วน้องก็จะได้รู้จักทุกคนแน่นอน ซึ่งก็มาจากหลากหลายประเทศ หลายๆ ที่ เช่นเดียวกับ Full-Time MBA

สิ่งที่โปรแกรม IBEAR ให้ก็จะคล้ายๆ กับ Full-Time MBA เลย คือมีทั้ง Core courses และ Elective courses และที่พิเศษเพิ่มขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องของ Management Consulting projects และยังมี Field trip ตามบริษัทต่างๆ ทั้งในอเมริกาหรือต่างประเทศ เป็นความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ส่วนถ้าเป็น Elective courses น้องสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนกับ Full-Time MBA หรือจะเรียนกับโรงเรียนอื่นๆ ของ USC เลยก็ได้ แล้วแต่น้องๆ ว่าอยากเรียนวิชาไหน

ส่วนเรื่องของ Management Consulting projects จะเป็น project ที่น้องต้องเข้าไปฟอร์มทีมกับเพื่อนๆ ประมาณ 6 คน เพื่อเข้าไปทำ Project ให้กับบริษัทจริงๆ ที่มีปัญหาจริง ประมาณ 4 เดือน แล้วก็มี Career tech จากทั้งในประเทศอเมริกาและต่างประเทศด้วย

โปรแกรมนี้จะเรียนติดๆ กันเลย ไม่มีเบรค ไม่มีให้ฝึกงาน แต่ที่พิเศษมากๆ คือ ถึงแม้จะไม่มีฝึกงาน แต่ทางมหาวิทยาลัยมี Career support ให้น้องเยอะมาก ซึ่งน้องสามารถใช้บริการ Career service ของ USC ได้ และยังมี Clubs, Activities ต่างๆ ที่น้องสามารถไป Join กับเพื่อนๆ Full-Time MBA ของ USC ได้เช่นกัน นั่นก็จะททำให้น้องรู้จักกับเพื่อนๆ ในโปรแกรม Full-Time MBA อีกหลายๆ คนด้วย บาง major ของ IBEAR ก็มี STEM ด้วย ถ้าน้องอยากจะทำงานที่อเมริกา ในสาย Tech แนะนำให้ไปเรียน Major ตัวนี้ค่ะ

ที่สำคัญอย่างหนึ่งของโปรแกรม IBEAR คือ เป็นโอกาสดีสำหรับน้องๆ ที่มีประสบการณ์ทำงานสูง ซึ่งมหาวิทยาลัย require ขั้นต่ำ คือ 6 ปี นับจากวันที่น้องจบปริญญาตรีจนถึงวันที่น้องไปเรียน IBEAR ถ้าน้องถึงเกณฑ์แล้ว แต่ปรากฎว่าคะแนน GMAT / GRE / EA ยังไม่สูง ทางมหาวิทยาลัยมีโอกาสให้น้องได้ Waive ด้วย condition หลายๆ อย่าง ซึ่งก็คือ

• เขียนอีเมล์หามหาวิทยาลัยและส่งเอกสาร support เพื่อบอกว่าน้องมี Minimum requirement ของ Condition และรอทางมหาวิทยาลัยตอบกลับว่าน้องได้ Waive คะแนนหรือไม่
• ถ้าน้องมี GPA สูงในช่วง Undergrad หรือช่วงที่น้องเรียนปริญญาโทตัวอื่นๆ ก็สามารถของ Waive ได้
• ถ้าน้องมี CPA / CFA ก็สามารถขอ Waive ได้
• ถ้าน้องจบ Master’s Degree ใน Major ที่ต้องใช้ Analytical skill เยอะๆ ก็สามารถขอ Waive ได้
• ถ้าน้องมีคะแนน GMAT / GRE / EA ที่หมดอายุไปแล้ว ไม่ต้องไปสอบใหม่ ก็สามารถส่งไปขอ Waive ได้
• แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากจะแนะนำให้น้องส่งเอกสาร Support ไปให้เยอะที่สุด และทางมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ตัดสินให้น้องเอง

โปรแกรม IBEAR มี Deadline ค่อนข้างใกล้เคียงกับ Full-Time MBA ซึ่งรอบที่ 1 คือ October, รอบที่ 2 คือ January ในปีถัดไป, รอบที่ 3 คือ February, และรอบที่ 4 คือ March และจะเปิดเทอมใกล้เคียงกับ Full-Time MBA ซึ่งอันนี้ก็เป็นภาพรวมของโปรแกรมนี้

โปรแกรมนี้ค่อนข้างเป็นเอกเทศก์ และจริงๆ มีมาตั้งแต่ปี 1978 ตอนนี้มี Alumni มากกว่า 2,000 คนทั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นเครือข่าย Alumni ที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร และยิ่งถ้าน้องได้ไปทำกิจกรรมเพิ่มเติม ไปเรียน Elective courses เพิ่มเติมกับเพื่อนๆ Full-Time MBA ก็จะทำให้น้องได้รู้จัก Alumni คนอื่นๆ มากขึ้น

สรุปง่ายๆ ข้อดีของโปรแกรม USC IBEAR คือ เรียนจบเร็ว (ปีเดียวจบ) เหมาะสำหรับน้องๆ ที่ประสบการณ์ทำงานเยอะ, ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายเยอะ, ได้มี Alumni network ที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร, และที่สำคัญคือคะแนน GMAT ไม่ต้องสูงมาก (ค่าเฉลี่ยแค่ 630) หรือถ้าไม่อยากส่งคะแนน GMAT ก็มีโอกาสขอ Waive ได้ในหลายๆ Condition ก็อยากให้น้องๆ ลองดู USC IBEAR เป็นอีก 1 ทางเลือก