รีวิวสมัครทุน Kbank เรียนต่อ MBA ที่ Kellogg

ทำไมถึงอยากสมัครทุน Kbank? ข้อดีของเด็กทุนมีอะไรบ้าง? ฟังพร้อมพี่ปัน Partner ของ Mission To Top U ศิษย์เก่า Kellogg MBA และปัจจุบันเป็น CFO ที่ DoHome กันเลย

Q1: ทำไมพี่ปันถึงเลือกทุน Kbank ครับ?

P’Pun: คือตอนนั้นผมได้ทุน Kbank ก่อนที่จะสมัครเรียน ตอนนั้นคิดง่ายๆเลยว่าจะต้องเรียนต่อและ แต่ไม่มีความรู้อะไรเลย สมัยนั้นไม่มี Mission to Top U ไม่มีใครบอกอะไรเลย ข้อสอบเป็นยังไงไม่รู้เลย ก็เลยคิดว่าไปลองสมัครดูจะได้รู้แนวข้อสอบ เผื่อได้รู้ว่าเขาสอบอะไรยังไง ก็เลยสมัครและดู requirement ตอนนั้นก็มี GMAT, TOFEL (ไม่แน่ใจ) แต่ GMAT อะจำได้ ตอนนั้นก็ลวกๆ เหมือนกันนะ แต่โชคดีทีคะแนนมันไม่ได้แย่ พอยื่นได้ ก็เลยมี GMAT มายื่นทุน โชคดีมากๆที่ผ่านเข้ารอบ แล้วก็ผ่านรอบลึกๆ เข้าไป สุดท้ายก็ได้ เรียกว่าไม่ได้คาดคิดเหมือนกัน จากที่จะสมัครทุนเพื่อดูแนวข้อสอบ พอได้ปุ๊ป ต้องตั้งใจสมัครเรียนและ เพราะว่ามีเวลา 1 ปีที่จะสมัครเรียน เป็นที่มาว่าเป้าหมายตอนนั้นจะสมัครทุนเพื่อดูแนวข้อสอบเลยไม่ได้สมัครทุนที่อื่นเลย เลยสมัครทุนของ Kbank เพราะ Kbank เป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ น่าทำงานก็เลยเลือก Kbank

Q2: ทุน Kbank เป็นแบบไหนครับ  ระหว่างสมัครทุนก่อนได้มหาลัย กับ ได้มหาลัยแล้วค่อยสมัครทุนครับ?

P’Pun: ณ ตอนนั้น ผมไม่ได้ทำงานที่ Kbank ผมทำงานที่บริษัทอื่นเลย ไปสมัครสอบแล้วผ่าน ถึงจะได้ทุน เขาก็ไม่ได้รับเข้าทำงาน Kbank นะ ก็ให้ทำงานที่เดิม จนกลับจากเรียน MBA ค่อยกลับมาทำงาน อาจจะเป็นแบบแรกที่ไม่จำเป็นต้องทำงานก่อน กับแบบที่สองคือเป็นพนักงานที่ทำงานที่ Kbank แล้วมาสมัครทุน 

Q3: ขั้นตอนในการสอบทุน มีอะไรบ้างครับ?

P’Pun: รอบแรกเป็นข้อเขียนที่จุฬา ถ้าจำไม่ผิด เป็นเหมือนกับใน case มา แล้วให้เราเขียนตอบเป็นอัตนัย วิเคราะห์ case ไปเกี่ยวกับ bank, finance ประมาณนี้ พอเข้ารอบ ต่อไปก็จะสอบ IQ, EQ แล้วก็รอบสุดท้ายสอบสัมภาษณ์ ถ้าจำไม่ผิดมีสามรอบครับ ก่อนสอบสัมภาษณ์อาจจะมีสอบบุคลิกภาพครับ

Q4: หลังจากเรียนจบ ช่วงใช้ทุนเขาติดต่อมายังไงบ้างครับ ?

P’Pun: ผมติดต่อผ่านทาง HR ว่ากลับมาจะให้เราทำอะไร มีตัวเลือกไหนให้เราเลือกบ้าง เขาก็ส่ง list มาช่วงก่อนเรียนจบเท่านั้นเอง ว่ามี list ประมาณนี้ จนตอนกลับมา ผมก็ขอคุยกับพี่ที่เขาทำงานอยู่ในแต่ละอย่างว่างานแต่ละอย่าง เนื้องานเป็นยังไงบ้าง ความรับผิดชอบต้องทำอะไรบ้าง แล้วเราก็มาเลือกจาก ใน list โดยรวมไม่ได้รีบครับ Process ทุกอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่เรากลับมาเมืองไทย ซึ่งเขาไม่ได้บังคับให้ต้องมาคุยหรือสัมภาษณ์อะไร แต่เราอยากคุยกับเขาก่อน เพราะเราอยากรู้จักหัวหน้าที่จะเป็นหัวหน้าเราในอนาคตครับ

Q5: สมมติถ้าเราเข้าไปทำแผนก A แล้วไม่ชอบ ย้ายไปแผนก B ได้ไหมครับ?

P’Pun: จริงๆ ก็เห็นหลายคนก็มีย้ายนะครับ ถ้าเราไม่ชอบจริงๆ เขาก็มาคุยแหละว่าติดอะไร ลองก่อนมั้ย ถ้าลองแล้ว ให้เวลาแล้ว ถ้าไม่ชอบจริงๆ ก็ rotate ไปทำแผนกอื่น เขาก็เหมือนว่าสามารถโยกย้ายไปแผนกอื่นได้ครับ

Q6: การดูแลเด็กทุนของ Kbank มีการ promote ต่างจากคนอื่นไหมครับ?

P’Pun: ผมรู้สึกว่าเขาไม่ได้ treat special นี่เด็กทุนนะ ไม่ได้ต้องได้ promote ก่อนคนอื่น ต้องทุกอย่างพิเศษกว่าคนอื่น ผมว่าเขาก็ทรีตเราเป็นพนักงานคนหนึ่งที่จะได้ promote หรือปรับเงินเดือนที่เยอะตาม performance ซึ่งอันนี้ก็เข้าใจได้ จริงๆเราได้ทุนเนี่ย เราก็ได้ benefit จาก bank ไปเรียนและ พอกลับมาเนี่ยมันก็ขึ้นอยู่กับเราและว่าจะ contribute ให้กับธนาคารได้ขนาดไหน ถ้าเราทำงานได้ดี ก็จะได้ promote ผมว่าข้อดีของเด็กทุนอย่างหนึ่งคือมี spotlight ด้วย เพราะมันก็จะมีโครงการที่เอาเด็กทุนมา get together กัน รู้จักกัน ได้รู้จักคนมากขึ้นในองค์กร สมัยที่ผมอยู่นะ ผมว่าที่พิเศษคือ เขาให้โอกาสมากกว่า คือสมมติเราอยากทำอะไรใน bank เราสามารถ reach out ถึง HR  ขอลองคุยได้ คือเขาให้โอกาสเด็กทุนได้เลือกในการทำงานดีครับ

Q7: อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากกลับมาทำงานที่ไทย ไม่ทำงานที่อเมริกาก่อนครับ?

P’Pun: ตอนนั้นคือครอบครัวเรา เพื่อนเรา อยู่ไทย ไปเรียนที่เมกาเพราะสนุก คิดว่าถ้าไปทำงานคงกดดันแล้วก็ห่างบ้าน ตอนนั้นไม่ได้คิดเยอะอะครับ แค่คิดว่าครอบครัวเรา ชีวิตเราก็อยู่ที่นี่ จริงๆ กลับมาก็มีงานดีๆให้ทำ ก็คิดว่ากลับมาไทยก็มีงานดีๆให้ทำ แฮปปี้ดีครับ

Q8: มีความรู้สึกลองอยากทำงานที่อเมริกาไหม ตอนที่เห็นเพื่อนๆ ได้งานที่อเมริกา?

P’Pun: พอเราได้ทุนไปก่อนแล้ว ช่วงที่เขา recruiting เราก็ไม่ต้อง recruit กับชาวบ้านเขาเลย ไม่ต้องเครียด เห็นเพื่อนๆหลายคนเขาเครียดและกดดันมากๆ การแข่งขันค่อนข้างสูง ถามว่าวอกแวกอยากทำงานที่เมกามั้ย พอเราไม่ต้องกดดัน เราก็ไม่ได้ put effort เข้าไปขนาดนั้น เรารู้อยู่แล้วต้องกลับมาใช้ทุนก็เลยไม่ได้หางานอะไรครับ

Q9: พี่ปันมีอะไรอยากฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากได้ทุน Kbank ไหมครับ?

P’Pun: จริงๆ ผมไม่แน่ใจว่าปัจจุบัน process ของทุนเขาคัดเลือกกันยังไง แต่ข้อที่อยากแชร์ คือน้อง ๆ อาจจะต้องเลือกทุนของบริษัทที่เราอยากทำงานด้วย ด้วยความที่ corporate scholarship มีหลายที่ แต่ถ้าเราสมัครเยอะ และพอได้แล้วต้องกลับมาทำงาน ถ้าเราไม่ชอบ vibe ของที่ทำงานเนี่ยจะทำให้รู้สึกเสียดาย ผมว่าเราควรจะดูก่อนว่า บริษัทที่ให้ทุน มีบริษัทไหนที่เราอยากทำงานด้วย ทุนก็เป็นหนึ่งใน option แต่ถ้าดูและไม่อยากทำงานที่บริษัทที่เขาให้ทุน การเปิดโอกาสไปทำงานที่เมกา หรือจะกลับมาทำงานที่ไทยในองค์กรอื่นๆ ก็ไม่ได้แย่นะ อาจจะเพิ่มความเครียดในช่วง recruiting แต่สุดท้ายมันแค่ short period มันน่าจะดีกว่าการที่เราต้องกลับมาทำงานที่เราไม่ชอบ เพราะจริงๆ ทุนมีทางเลือกอีกเยอะ นอกจากทุน corporate แล้ว ทุนมหาลัยก็มีถ้าโชคดี หรือถ้าไม่ได้ทุนจริงๆ การกู้เงิน ก็เป็นอีก option นึง พอจบ MBA ก็ทยอยใช้ได้ แต่ละคนก็มี condition แตกต่างกัน อาจจะต้องเลือกที่เหมาะกับเราครับ


รับเคล็ดลับเรียนต่อฟรี ส่งถึงมือทุกสัปดาห์ 

น้องๆที่จะสมัคร ไปเรียนต่อ MBA หรือ Master’s Degree สายอื่น อย่าพลาด
ปรึกษาฟรี!!!! คลิกเลย FREE CONSULTATION
ฟังเรื่องราวความสำเร็จของนักเรียน MTU คลิกเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

EP57: ทุน Fulbright ไปต่อโทอเมริกา

ทุนฟูลไบลท์(FULBRIGHT)เป็นอย่างไรและมีข้อดียังไง ครูพี่เจส ภัคศิกร ทับทิมทอง อดีต Admissions Committee ที่ Kellogg, Northwestern University และเป็นผู้บริหารบริษัท Mission To Top U TopU Talk The Podcast · KruPJess.EP57: ทุน Fulbright ไปต่อโทอเมริกา

Read More »

EP174: Winning Essay Secrets การเขียนเรื่องความล้มเหลว (Failure)

การเขียนเรื่องที่ล้มเหลวลงไปใน Winning Essay ครูพี่เจส ภัคศิกร ทับทิมทอง อดีต Admissions Committee ที่ Kellogg, Northwestern University และเป็นผู้บริหารบริษัท Mission To Top U TopU Talk The Podcast · KruPJess.EP23 :

Read More »

EP63: 10 ทักษะของคน GEN Y ในปี 2030

ทักษะสำคัญสำหรับคน Gen Y ที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในปี 2020-2030 ครูพี่เจส ภัคศิกร ทับทิมทอง อดีต Admissions Committee ที่ Kellogg, Northwestern University และเป็นผู้บริหารบริษัท Mission To Top U TopU Talk The Podcast ·

Read More »
Scroll to Top