สร้างโปรไฟล์ติด LLM (Master of Law)

          ทำโปรไฟล์ยังไงดีให้เข้า LLM Top U ได้? ถ้าไม่มีประสบการณ์ทำงาน จบปี 4 ไปได้เลยไหม? ฟังเคล็ดลับจากพี่แสตมป์ จบ LLM ที่ Duke Law School กันค่ะ

Q1: พี่แตมแนะนำตัวหน่อยครับ จบอะไรมา ทำงานที่ไหน?

P’Stamp: สวัสดีครับ พี่ชื่อแสตมป์นะครับ หรือเรียกแตมก็ได้ครับ พี่จบปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจบรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และไปเรียนปริญญาโทใบแรกที่ University of Aberdeen, UK และก่อนที่จะเรียนปริญญาโทใบที่ 2 ก็มีเรียนกฎหมายระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเจนีวา ซึ่งร่วมกับ Duke University และไปเรียนปริญญาโทใบที่ 2 ด้านกฎหมายที่ Duke University ตั้งแต่ก่อนเรียนจนถึงตอนเรียน มีประสบการณ์ทำงานทั้งภาครัฐและเอกชนและได้รับเกียรติจากพี่เมฆ ให้มาเป็น Associated Partner ของ Mission To Top U ครับ

Q2: พี่แตมทำงานก่อนไปเรียนที่ University of Aberdeen นานไหมครับ?

P’Stamp: ก่อนไปเรียนที่ University of Aberdeen พี่ทำงาน 1 ปีครับ ซึ่งเป็นการทำงานที่เข้มข้นเลย เพราะทำงานในภาครัฐ ในด้านวิชาการ ทำในเรื่องของบทความวิจัยทางภาครัฐที่เป็นประเด็นของสังคม พี่แตมมีเป้าหมายที่ชัดเจนไว้เลยว่าปริญญาโทใบแรก พี่แตมอยากจะไปเรียนที่ UK ก็เลยเน้นทางด้านนี้และทำบทความที่เกี่ยวกับที่จะไปเรียน ก็คือ กฎหมายการค้าระหว่างประเทศครับ

Q3: สมมุติน้องอยู่ปี 2 หรือ ปี 3 จะทำโปรไฟล์อย่างไรให้เข้า Top U เช่น Duke, Berkeley, NYU ได้?

P’Stamp: ก่อนอื่นพี่แตมคิดว่า น้องต้องมีเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจนก่อน ซึ่งพี่ขอแบ่งเป็น 3 อย่างนะครับ ซึ่งก็คืองานเอกชน, ภาครัฐ, กึ่งๆ ภาครัฐและเอกชน ถ้าน้องมีเป้าหมายว่าอยากทำงานเอกชน น้องต้องเข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียน ทั้ง Academic และ Non-academic, เรียนในวิชาที่เกี่ยวข้อง, และได้คะแนนภาษาที่ถึงเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย แต่ถ้าน้องอยากไปทำงานทางภาครัฐเช่นเป็นอัยการ, ผู้พิพากษา, ข้าราชการพลเรือน การไปเรียน Top U จะช่วยน้องได้อย่างมีนัยสำคัญเลยครับ

Q4: ถ้าน้องอยากทำงานภาครัฐในอีก 5 ปี 10 ปี หลังเรียนจบปริญญาตรีนิติศาสตร์ และ Master of Law พี่แตมคิดว่าน้องคนนี้ควรทำ Extracurricular activities อะไรบ้าง ในช่วงที่น้องเรียนปี 3 ปี 4 อยู่?

P’Stamp: ถ้าเกิดเป็นการทำงานในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งส่วนมากก็คืออัยการหรือผู้พิพากษา ถ้าน้องอยากเป็นอัยการ การทำงานก็คือการว่าความและสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องพวกนี้ แต่ในประเด็นของการว่าความให้แผ่นดิน น้องต้องมีทักษะในการว่าความ ต้องฝึกพวกศาลจำลองหรือทำงานด้านวิชาการที่เกี่ยวกับกระบวนวิธีพิจารณาความและอาญา แต่ถ้าน้องอยากเป็นข้าราชการพลเรือน น้องต้องเตรียมตัวเพื่อสอบชิงทุน เพราะฉะนั้นต้องดูว่าน้องอยากทำงานด้านไหนในภาครัฐครับ

Q5: แล้วถ้าน้องอยากทำงานในภาคเอกชนล่ะครับ พี่แตมจะแนะนำให้น้องทำ Extracurricular activity อย่างไร?

P’Stamp: ถ้าน้องอยู่ในช่วงปี 3 ปี 4 จะมีกิจกรรมมากมายในมหาวิทยาลัย เช่น เข้าร่วมสมาคมกฎหมายหรือ ALSA (Asian Law Students’ Association), การโต้วาที, การตอบปัญหากฎหมาย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการแสดงศักยภาพของน้องในด้าน Academic ครับ ส่วนด้าน Non-academic ต้องไปเข้าร่วม Pro bono (งานที่ปราศจากค่าตอบแทน) พวกกิจกรรมช่วยเหลือสังคม เพื่อที่จะเตรียมตัวน้องๆ ให้พร้อมสำหรับบริษัทเอกชนใหญ่ๆ หรือ Big law firm ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการสร้างโปรไฟล์ตั้งแต่เนิ่นๆ และที่สำคัญพอช่วงปี 3 ใกล้ๆ ขึ้นปี 4 จะมีสิ่งที่หลายๆ Law school ต้องมีก็คือการฝึกงานครับ ซึ่งถ้าน้องได้รับโอกาสไปฝึกงานใน Law firm หรือ บริษัทเอกชนใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียง ก็จะเป็นการสร้างโปรไฟล์ที่ดีให้น้องได้ไปเรียน Top law school และทำงานใน Top firm ได้ด้วยเช่นกันครับ

Q6: พี่แตมคิดว่าทำไมมหาวิทยาลัยถึงต้องการให้น้องทำ Extracurricular activities ทั้งๆ ที่ GPA หรือคะแนนภาษาต่างๆ ของน้องก็ดีอยู่แล้วครับ?

P’Stamp: เพราะ Top law school ต้องมีวิธีการในการคัดคนครับ ซึ่งมีสิ่งที่เรียกว่า Diversity quota ซึ่งถ้าน้องมีทั้ง GPA สูงและชอบทำกิจกรรม ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าน้องเด่นอย่างหนึ่งมากกว่าอีกอย่างหนึ่งอย่างชัดเจน ก็อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มหาวิทยาลัยพิจารณาได้เช่นกัน เพราะ Top law school จะมองว่า น้องที่ชอบทำ Extracurricular activities มี EQ สูง แสดงให้เห็นว่าน้องมี Critical thinking และ วิธีคิดริเริ่มในการพัฒนาตัวเอง เป็น Rare jewels ซึ่งสุดท้ายก็จะช่วยพัฒนา Law school ได้ด้วยครับ

Q7: ถ้าน้องเป็นคน Introvert ไม่ค่อยชอบทำกิจกรรม พี่แตมมีคำแนะนำอย่างไร ให้น้องคนนี้ยังสามารถเข้าเรียน Top U ได้ครับ?

P’Stamp: สำหรับน้องๆ ที่ไม่ชอบทำกิจกรรม มุ่งทางด้านเรียนอย่างเดียว ก็เรียนให้เต็มที่ เรียนให้ดี เตรียมคะแนนภาษาให้พร้อม และพอน้องเรียนใกล้จบก็เลือกฝึกงานตามสายที่น้องต้องการ เช่น ถ้าน้องอยากทำงานภาครัฐ ก็เลือกฝึกงานที่ศาลหรือกระทรวงต่างๆ แต่ถ้าน้องอยากทำงานภาคเอกชน ก็ไปฝึกงานใน Law firm และหลังจากเรียนจบก็สามารถทำงานต่อได้อีก 1-3 ปีเพื่อสร้างโปรไฟล์ ประสบการณ์ทำงานก่อนที่จะไปเรียนต่อ Top law school นะครับ ซึ่งประสบการณ์ทำงานพวกนี้ ก็สามารถทำให้น้องสามารถต่อยอดในการทำกิจกรรมได้เช่นเดียวกันครับ

Q8: ถ้าน้องไม่มีประสบการณ์ทำงานเลย สามารถเรียนจบแล้วไปเรียนต่อได้เลยไหมครับ หรือต้องมีประสบการณ์ทำงานก่อน?

P’Stamp: จริงๆ ประสบการณ์ทำงานมีได้ทั้งก่อนหรือหลังจากเรียนจบ ซึ่งประสบการณ์ก่อนที่น้องจะเรียนจบก็คือประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัยหรือใน High school ที่มีความโดดเด่นก็สามารถนำมาใช้ได้ แต่ถ้าในกรณีที่ไม่มีประสบการณ์เลย น้องต้องเตรียมพร้อมในด้านคะแนนทางภาษา GPA ให้ดี และแสดงความเป็นตัวตนของน้องออกมาให้ได้มากที่สุดเพื่อให้สอดคล้องกับ Law school ที่น้องอยากเข้าไปเรียน แต่จริงๆ แล้วการมีประสบการณ์จะเป็นแต้มต่อที่ดีกว่าครับ

Q9: ตอนพี่แตมไปเรียนที่ Duke เพื่อนๆ ในคลาสทำงานมาแล้วกี่ปีครับ?

P’Stamp: อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศด้วยนะครับ เช่น ถ้าเป็นคนจีนก็จะมีคละกันไปเลยครับ พึ่งเรียนจบก็มี แต่ต้องมีโปรไฟล์ที่โดดเด่นมาก อย่างคนที่พี่แตมรู้จัก เขาทำงานร่วมกันท่านสี จิ้น ผิง ก็เลยได้รับการตอบรับในอายุเพียง 22 ปี ส่วนญี่ปุ่นและเกาหลี ช่วงอายุประมาณ 28-30 ปีก็มีครับ


รับเคล็ดลับเรียนต่อฟรี ส่งถึงมือทุกสัปดาห์ 

น้องๆที่จะสมัคร ไปเรียนต่อ MBA หรือ Master’s Degree สายอื่น อย่าพลาด
ปรึกษาฟรี!!!! คลิกเลย FREE CONSULTATION
ฟังเรื่องราวความสำเร็จของนักเรียน MTU คลิกเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรียน MBA ที่ HEC Paris

อยากสมัคร MBA ที่ HEC Paris ชีวิตการเรียนเป็นยังไง คณะกรรมการกำลังมองหาคนแบบไหน คลิกอ่านต่อได้เลยค่ะ

Read More »

TopUTalk EP36: เรียนต่อโท Design Impact ที่ Stanford Part 1

อยากไปเรียน Stanford แต่ไม่อยากเรียน  MBA แล้วจะเรียนอะไรดี? เปิดประสบการณ์เรียน Design Impact ที่ Stanford  มาฟังใน Podcast นี้กันค่ะ ครูพี่เจส ภัคศิกร ทับทิมทอง อดีต Admissions Committee ที่ Kellogg, Northwestern University และเป็นผู้บริหารบริษัท Mission

Read More »

5 เคล็ดลับตอบคำถาม Tell me about yourself

5 เคล็ดลับ ตอบคำถาม Tell me about yourself (MBA ELEVATOR PITCH) “TELL ME ABOUT YOURSELF” เป็นคำถามที่มักจะถูกถามจากคนที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการสมัครโรงเรียนธุรกิจ ตั้งแต่การพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับนักเรียนหรือศิษย์เก่า ไปจนถึงการสัมภาษณ์การรับเข้าเรียน MBA การเข้าถึงเพื่อสร้าง connections รวบรวมข้อมูลและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเป้าหมายของน้องคือภารกิจที่สำคัญ! การวางตัวให้เป็นที่น่าจดจำ น่ารักและน่าสนใจต่อผู้คนที่น้องตั้งใจจะสร้างความสัมพันธ์นั้น จำเป็นต้องใช้การแนะนำตัวที่มีประสิทธิภาพ เมื่อนึกถึง

Read More »
Scroll to Top