5 ข้อผิดพลาดในการสอบ GMAT

อย่าเพิ่งไปสอบ GMAT ถ้ายังไม่ได้ฟัง 5 ข้อผิดพลาดนี้!!

Time Management หรือการบริหารเวลา เป็นเรื่องที่น้องๆ หลายคนพลาดตอนทำข้อสอบจริง เพราะน้องๆ อาจจะตื่นเต้นจนบริหารจัดการเวลาไม่ถูก ทั้งๆ ที่ตอนทำ Mock test ก็ได้คะแนนค่อนข้างสูง แต่อย่าเพิ่งเสียใจไปค่ะ มาฟัง 5 ข้อผิดพลาดในการสอบ GMAT แล้วลองนำไปปรับใช้กับวิธีของน้องๆ กันได้เลยค่ะ

1. ใช้เวลาในการทำ Verbal และ Quant ใน 10 ข้อแรกเยอะเกินไป

น้องๆต้องเข้าใจก่อนว่า GMAT เป็นข้อสอบแบบ Adaptive test ซึ่งจะปรับความยากง่ายจากข้อที่เราทำถูกหรือผิด เช่น ข้อแรกเป็นข้อสอบความยากกลางๆ ประมาณข้อละ 500 คะแนน ถ้าเราทำถูกเราก็จะได้ข้อที่ได้คะแนนยากขึ้นๆ แต่ถ้าทำผิดเราจะได้ข้อที่ได้คะแนนง่ายขึ้น ซึ่งก็จะไปจบที่เราได้คะแนนต่ำ น้องบางคนเลยเข้าใจว่า 10 ข้อแรก ต้องให้เวลาเยอะมากประมาณ 30-40 นาที ทำไปเลยข้อละ 2-3 นาที 

  • ใน 10 ข้อแรก สำคัญกว่าก็จริง แต่น้องๆ ไม่จำเป็นต้องทุ่มเวลาไปใน 10 ข้อแรกมากขนาดนั้น อาจจะให้เวลามากกว่าปกติประมาณ 10-15% ของจำนวนข้อทั้งหมด เพราะข้อหลังๆ ก็สำคัญเหมือนกัน

2. โดนตัดคะแนนเพราะใช้เวลาในการทำข้อที่ยากเยอะเกินไป

มีน้องๆ หลายคนที่พอเจอข้อที่ยากก็อยากจะทำให้ถูก เพื่อที่เราจะได้อยู่ในระดับที่ยากและได้คะแนนมากขึ้น แต่ถ้าเราเสียเวลากับตรงนี้มากเกินไปก็จะส่งผลให้น้องๆ อาจจะรนและเริ่มทำไม่ทัน การสอบ GMAT นั้นถ้าเราทำข้อสอบไม่เสร็จ เราจะโดนตัดคะแนนและจะโดน penalty ในการตัดคะแนนเยอะมาก
ดังนั้นเราต้องรู้จุดอ่อน จุดแข็งของเราเอง ลองตั้งเวลาว่าเราควรจะใช้เวลาในแต่ละข้อประมาณเท่าไหร่หรือถ้ามันเกินเวลาที่เราตั้งไว้ ก็ต้องตัดใจเดา แต่ก็ไม่ควรเดาทุกข้อเพราะจะทำให้เราเสียคะแนนไปเยอะ

3. วางกลยุทธ์ในการทำแต่ละส่วนให้ดี

อันนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดและจุดอ่อน จุดแข็งในการวางกลยุทธ์ของแต่ละคน พี่แนะนำว่าในส่วนของ Sentence Correction น้องควรทำให้เร็ว ไม่ควรเกิน 1 นาทีครึ่ง เพื่อเอาเวลาไปทำส่วนของ Critical Reasoning และ Reading ซึ่งในส่วนนี้เราจะต้องใช้เวลาเยอะหน่อย แต่ไม่ควรเกิน 2 นาทีต่อข้อ หรือถ้าข้อไหนเรารู้ว่าเราทำไม่ได้ให้ข้ามไปเลย แต่ถ้ามั่นใจว่าข้อนี้ยากแล้วเราทำได้ น้องก็สามารถใช้เวลาไปกับข้อนั้นได้เลย

4. “ไม่ได้รบชนะทุกครั้ง แต่เราชนะสงคราม”

ในการรบ มันอาจจะมีการรบหลายสนามมาก สนามนี้ชนะ effort เยอะใส่สนามนี้ สนามนี้เป็นสนามเล็กๆ แพ้บ้างก็ได้ แต่เอาแรงไปชนะสนามอื่นๆ ให้สุดท้ายแล้วเราชนะสงคราม การสอบ GMAT ก็เหมือนกัน เราจะต้องรู้จุดอ่อน-จุดแข็งของเราคืออะไร เราไม่จำเป็นจะต้องทำถูกหมดทุกข้อ แต่เราต้องบริหารจัดการเวลาดีๆ เพื่อที่เราจะได้คะแนนที่ดีที่สุด ไม่ควรใช้เวลาในแต่ละข้อนานเกินไปหรือน้อยเกินไป ถ้าทำไม่ได้จริงๆ ให้ข้ามไปเลย ในกรณีที่เหลือ 2-3 นาที ใน 5-6 ข้อสุดท้ายเราอาจะเลือกทำแล้วก็เว้นบางข้อไป

5. เวลาในการเตรียมตัว

บางคนใช้เวลาแค่ 1-2 เดือนก็ทำได้แล้ว แต่โดยเฉลี่ยแล้วส่วนใหญ่จะใช้เวลาตั้งแต่ 3 เดือน – 1ปี หรือเกิน 1 ปี เพราะการสอบ GMAT ไม่เหมือนการสอบแบบอื่น 
น้องๆ ควรจะเผื่อเวลาเตรียมตัวอย่างน้อย 5-6  เดือน โดย 3-4 เดือนแรกน้องๆ อาจจะไปติว อ่านทบทวนเองก่อน แล้วไปลองสอบครั้งแรก ที่สำคัญน้องๆ ต้องเผื่อเวลาในการ retest อีกสักครั้ง สองครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่น้องๆ จะต้องเจอ

จริงๆแล้วสำหรับการสอบ GMAT นั้นมันมีเคล็ดลับอยู่ เช่น การทำส่วนของ Verbal นั้น ข้อที่ถูกจะหายากมาก การที่เราจะหาข้อถูกได้ เราจะต้องทำ POE (Process of Elimination) คือการตัดตัวเลือกที่ผิดออก แล้วเลือกตัวเลือกที่เรารู้สึกว่าถูก ดังนั้นน้องๆ จะต้องรู้เทคนิคในการตัดตัวเลือกค่ะ

สำหรับน้องๆ ที่อยากได้เคล็ดลับ เทคนิคการสอบ GMAT สามารถขอคำปรึกษากับพี่ๆ MTU ได้นะคะ
เรามีผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Verbal และ Quant ที่เคยสอบ GMAT ได้คะแนนสูงมาก่อน


รับเคล็ดลับเรียนต่อฟรี ส่งถึงมือทุกสัปดาห์ 

น้องๆที่จะสมัคร ไปเรียนต่อ MBA หรือ Master’s Degree สายอื่น อย่าพลาด
ปรึกษาฟรี!!!! คลิกเลย FREE CONSULTATION
ฟังเรื่องราวความสำเร็จของนักเรียน MTU คลิกเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

EP160: 4 เหตุผลทำไมคนนิยมสอบ Online GMAT

Online GMAT ขยายเวลาให้สอบได้ถึง 17 July เท่านั้น และทำไมหลายคนจึงเลือกสอบ Online GMAT ครูพี่เจส ภัคศิกร ทับทิมทอง อดีต Admissions Committee ที่ Kellogg, Northwestern University และเป็นผู้บริหารบริษัท Mission To Top U TopU

Read More »

EP152: 5 Master’s Degrees ยอดฮิตเด็กจบวิศวะ

เรียนจบวิศวะแล้วจะเรียนต่อโท Top-U สายไหนดี?ฟังสรุป 5 โปรแกรมยอดฮิตของคนจบวิศวะค่ะ ครูพี่เจส ภัคศิกร ทับทิมทอง อดีต Admissions Committee ที่ Kellogg, Northwestern University และเป็นผู้บริหารบริษัท Mission To Top U TopU Talk The Podcast ·

Read More »

EP44: สมัคร MBA รอบไหนดี Round 1-2-3 ?

รอบสมัคร (Application Round) แต่ละรอบมีผลต่อการตอบรับแตกต่างกันยังไง อธิบายความแตกต่างแต่ละรอบให้ค่ะ *Early Decision / รอบที่ 1 (Round One) *รอบที่ 2 (Round Two) *รอบที่ 3 (Round Three) *ควรสมัครรอบไหน (Which round you should

Read More »
Scroll to Top